วันที่
08 มิ.ย. 2567
หมวดหมู่
Health & Care

ไวรัสเอชไอวี และโรคเอดส์ สามารถรักษาได้ (HIV Infection , AIDS)


บทความ โดย นพ. ธีวินท์ งามศรีขำ อายุรแพทย์

ไวรัส เอชไอวี (HIV virus)
เป็นเชื้อไวรัส ที่เมื่อเข้าสู่ร่างกายแล้ว จะไปทำลายเม็ดเลือดขาวชนิด ซีดีโฟร์ (CD4) ส่งผลให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายลดต่ำลง ทำให้มีโอกาสเกิดการติดเชื้อโรคฉวยโอกาสต่าง ๆ อาทิ วัณโรค ปอดอักเสบ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ จากเชื้อรา โรคมะเร็งบางชนิด
โรคเอดส์ (AIDS Acquired immune deficiency syndrome)
คือ กลุ่มอาการ ของโรคในระยะท้าย จากการติดเชื้อไวรัสเอชไอวี
การติดเชื้อไวรัสเอชไอวี
การติดเชื้อไวรัสเอชไอวี สามารถติดต่อได้ โดย
1. เพศสัมพันธ์
2. การใช้เข็มฉีดยาเสพย์ติดร่วมกัน การที่มีบาดแผล สัมผัสเลือด / สารคัดหลั่ง
3. การติดเชื้อจากแม่สู่ลูกขณะตั้งครรภ์ การดื่มน้ำนมแม่
ระยะของการติดเชื้อไวรัสเอชไอวี มี 3 ระยะ
1. ระยะเฉียบพลัน เกิดขึ้นระหว่าง 2-4 สัปดาห์หลังจากติดเชื้อ ในระยะนี้ผู้ติดเชื้อจำนวนมากจะเริ่มมีอาการคล้ายเป็นไข้หวัดใหญ่ เช่น มีไข้ เจ็บคอ ต่อมน้ำเหลืองโต ปวดเมื่อยตามร่างกาย มีผื่นและปวดหัว อาการเหล่านี้เรียกว่า Acute retroviral syndrome หรือ ARS เกิดขึ้นจากการที่ร่างกายตอบสนองต่อการติดเชื้อเอชไอวี
2. ระยะสงบ ระยะที่ติดเชื้อโดยไม่มีอาการ ผู้ติดเชื้อมักจะแข็งแรงเป็นปกติเหมือนคนทั่วไป แต่เมื่อตรวจเลือดจะพบเชื้อ HIV และสารภูมิคุ้มกันต่อเชื้อชนิดนี้ จึงสามารถแพร่เชื้อให้ผู้อื่นได้ ระยะนี้แม้ว่าจะไม่มีอาการแต่เชื้อ HIV จะแบ่งตัวเจริญเติบโตขึ้นไปเรื่อย ๆ และทำลายระบบภูมิคุ้มกันโรคจนมีจำนวนลดลง เมื่อลดต่ำลงมาก ๆ ก็จะเกิดอาการเจ็บป่วย
3. ระยะติดเชื้อที่มีอาการ - ระยะป่วยเป็นเอดส์ (เอดส์เต็มขั้น) ผู้ป่วยอาจมีอาการต่อมน้ำเหลืองที่คอโต ติดเชื้อรา แผลร้อนในในช่องปาก ผิวหนังอักเสบชนิดเกล็ดรังแคที่ไรผม ข้างจมูก ริมฝีปาก โรคสะเก็ดเงินที่เคยเป็นอยู่เดิมกำเริบ เริมที่ริมฝีปากหรืออวัยวะเพศ ซึ่งกำเริบบ่อยและเป็นแผลเรื้อรัง งูสวัด โรคเชื้อราในช่องปากหรือช่องคลอด ท้องเสียบ่อยหรือเรื้อรังนานเกิน 1 เดือน มีไข้เป็น ๆ หาย ๆ หรือติดต่อกันทุกวันนานเกิน 1 เดือน ต่อมน้ำเหลืองโตมากกว่า 1 บริเวณ (เช่น คอ รักแร้ และขาหนีบ) นานเกิน 3 เดือน น้ำหนักลดเกินร้อยละ 10 ของน้ำหนักตัวโดยไม่ทราบสาเหตุ


ระยะนี้ระบบภูมิคุ้มกันโรคของผู้ป่วยเสื่อมเต็มที่ ถ้าตรวจระดับ CD4 จะพบว่ามักมีจำนวนต่ำกว่า 200 เซลล์ต่อลูกบาศก์มิลลิเมตร เป็นผลทำให้เชื้อโรคต่าง ๆ เช่น ไวรัส แบคทีเรีย เชื้อรา โปรโตซัว วัณโรค เรียกว่า โรคติดเชื้อฉวยโอกาส ระยะนี้ผู้ป่วยอาจมีอาการ ไข้เรื้อรังติดต่อกันหลายสัปดาห์หรือเป็นเดือน ไอเรื้อรังหรือหายใจหอบเหนื่อยจากวัณโรคปอดหรือปอดอักเสบ ท้องเสียเรื้อรังจากเชื้อราหรือโปรโตซัว น้ำหนักลด รูปร่างผอมแห้งและอ่อนเปลี้ยเพลียแรง ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน กลืนลำบากหรือเจ็บเวลากลืนเนื่องจากหลอดอาหารอักเสบจากเชื้อรา สายตาพร่ามัว มองไม่ชัด ปวดศีรษะรุนแรง ชัก สับสน ซึม หรือหมดสติจากการติดเชื้อในสมอง อาการของโรคมะเร็งที่เกิดแทรกซ้อน เช่น มะเร็งของผนังหลอดเลือด มะเร็งต่อมน้ำเหลืองในสมอง มะเร็ง เป็นต้น
การวินิจฉัย
ต้องตรวจเลือด เพื่อยืนยันการวินิจฉัยการติดเชื้อไวรัสเอชไอวี / โรคเอดส์
การรักษา
มียารักษาเรียกว่า ยาต้านไวรัส (Antiretroviral drug) ARV ซึ่งจะไปยับยั้งการแบ่งตัวของเชื้อไวรัสเอชไอวี ควบคุมไวรัส ไม่ให้เพิ่มจำนวน ทำให้ผู้ติดเชื้อมีชีวิตที่ยืนยาวขึ้น นอกจากนี้ยังลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายเชื้อไวรัสเอชไอวี


ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
☎️038 - 488 - 777
ติดต่อ แผนกผู้ป่วยนอก ต่อ 101, 119
ทุกวัน เวลา 08.00 - 16.00 น.
Website : www.pattayamemorial.com
LINE Official : https://bit.ly/2SmVzUK
Facebook : https://bit.ly/2Sy23QT
Email : pmhospital@hotmail.com

บทความสุขภาพ
Blog Thumbnail

โรคเกาต์ (Gout) คืออะไร และ ปัจจัยที่ก่อให้เกิดโรคเกาต์

ข้อมูลและการรักษาโรคเกาต์ (Gout) เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจถึงการรักษาและการป้องกันที่ถูกต้องอย่างมีประสิทธิภาพ

อ่านต่อ
Blog Thumbnail

โรคเอดส์ สามารถป้องกันได้โดยรับประทานยา (PrEP and PEP)

ข้อมูลและการรักษาโรคเอดส์ สามารถป้องกันได้โดยรับประทานยา (PrEP and PEP) เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจถึงการรักษาและการป้องกันที่ถูกต้องอย่างมีประสิทธิภาพ

อ่านต่อ
Blog Thumbnail

ไวรัสเอชไอวี และโรคเอดส์ สามารถรักษาได้ (HIV infection , AIDS)

ข้อมูลและการรักษา ไวรัสเอชไอวี และโรคเอดส์ (HIV Infection, AIDS) เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจถึงการรักษาและการป้องกันที่ถูกต้องอย่างมีประสิทธิภาพ

อ่านต่อ